OpenAI เปิดตัว GPT-5 และปล่อยให้ใช้ฟรีครั้งแรก นี่คือสรุป 20 สิ่งที่ ‘เก่งขึ้น’ ของโมเดลใหม่

OpenAI เปิดตัว GPT-5 โมเดล AI ระดับเรือธงรุ่นล่าสุด ที่จะกลายเป็นหัวใจหลักของ ChatGPT เจเนอเรชันใหม่ โดย GPT-5 นี้ถือเป็นโมเดล “Unified” รุ่นแรกของบริษัท ซึ่งรวมข้อดีของโมเดลตระกูล o-series (ด้านการวิเคราะห์เชิงเหตุผล) และ GPT series (การตอบสนองที่รวดเร็ว) เข้าไว้ด้วยกัน

GPT-5 ไม่ได้แค่ตอบคำถามเก่งเหมือน GPT-4 แต่ยังสามารถ ลงมือทำงานแทนผู้ใช้ ได้หลายอย่าง เช่น สร้างแอปพลิเคชัน จัดการปฏิทิน หรือสรุปรายงานวิจัย ทั้งยังใช้งานง่ายขึ้นด้วยระบบ “real-time router” ที่คอยตัดสินใจอัตโนมัติว่าจะตอบแบบเร็วหรือใช้เวลาคิดก่อนตอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

Sam Altman ซีอีโอ OpenAI เรียก GPT-5 ว่า “โมเดลที่ดีที่สุดในโลก” และมองว่านี่คือก้าวสำคัญสู่การสร้าง AI ที่สามารถทำงานได้ดีกว่ามนุษย์ในงานที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง หรือที่เรียกว่า AGI (Artificial General Intelligence)

“การมี GPT-5 เกิดขึ้นได้จริง ถือเป็นเรื่องที่แทบไม่น่าเชื่อในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ” Sam Altman

สรุป 20 สิ่งที่ ‘ดีขึ้น’ ของ GPT-5

1. GPT-5 ใช้ได้ฟรี!

ครั้งแรกที่ OpenAI ปล่อยโมเดล reasoning ระดับสูงให้ผู้ใช้ฟรีได้ใช้งานโดยตรง

2. GPT-5 คิดเร็วขึ้น ตอบไวขึ้น

มีระบบ real-time router ที่เลือกว่าจะตอบเร็วหรือคิดก่อนตอบ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

3. ไม่แค่คุย แต่ ‘ลงมือทำ’ แทนเรา

สร้างแอป, จัดตาราง, เขียนรายงาน ซึ่ง GPT-5 เริ่มทำสิ่งเหล่านี้แทนผู้ใช้ได้แล้ว

4. GPT-5 จะคิดซับซ้อนขึ้น

เข้าใจโจทย์ยาก ๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องตรรกะ คณิตศาสตร์ และการแก้ปัญหา

5. โค้ดได้เร็วขึ้น เก่งขึ้น

GPT-5 ทำคะแนนสูงสุดใน SWE-bench (ชุดทดสอบเขียนโค้ดจาก GitHub) แซงหน้า Claude และ Gemini

6. Vibe Coding ได้

สร้างแอปจากไอเดียได้เลยแบบไม่ต้องสั่งละเอียด แค่บอกความรู้สึกหรือภาพรวม

7. เข้าใจเรื่องสุขภาพดีขึ้น

ตอบคำถามสุขภาพได้แม่นยำกว่ารุ่นก่อน และแต่งเรื่องน้อยลงเหลือเพียง 1.6%

8. ลดอาการหลอน (Hallucination)

จากที่รุ่นก่อนชอบตอบมั่ว GPT-5 ลดอัตราเหลือแค่ 4.8% เท่านั้น

9. เขียนได้ ‘มีรสนิยม’

ในการทดสอบงานเขียนเชิงสร้างสรรค์ GPT-5 ถูกมองว่าตอบ “มีรสนิยม” และเป็นธรรมชาติกว่าโมเดลอื่น

10. เข้าใจระดับปริญญาเอก

ในการสอบ GPQA Diamond (คำถามวิทยาศาสตร์ระดับ PhD) GPT-5 Pro ทำได้ 89.4% สูงกว่าคู่แข่งทั้งหมด

11. เลือกบุคลิก ChatGPT ได้

มีตัวเลือกบุคลิกใหม่ 4 แบบ: Cynic, Robot, Listener, Nerd — เปลี่ยนอารมณ์การคุยได้ง่าย ๆ

12. ปลอดภัยขึ้น

ตรวจจับผู้ใช้ที่มีเจตนาไม่ดีได้แม่นขึ้น และลดโอกาสตอบสนองต่อคำถามอันตราย

13. โปร่งใสขึ้น

ลดพฤติกรรม ‘โกหกเพื่อเอาตัวรอด’ หรือพยายามเลี่ยงคำถามแบบไม่ตรงไปตรงมา

14. เข้าเว็บแทนได้ (บางเว็บ)

มีความสามารถในการนำทางเว็บไซต์ เช่น ซื้อตั๋วเครื่องบินหรือเลือกสินค้าจากเว็บขายของ

15. แม่นยำในการวิเคราะห์ข้อมูล

ประสิทธิภาพดีกว่า GPT-4o และ o3 ในหลายหมวด โดยเฉพาะในด้านความถูกต้อง

16. เปิดให้ Developer ใช้ในหลายขนาด

มีให้เลือกใช้ใน API แบบ gpt-5, gpt-5-mini, gpt-5-nano เลือกได้ตามความเร็วและงบประมาณ

17. คุมความยาวคำตอบได้

ตั้งค่าผ่าน API ให้ตอบสั้น ตอบยาว หรือกระชับได้ตามใจ

18. ใช้งานได้ในแผน Plus และ Pro

สมาชิก Plus ได้โควต้า GPT-5 เพิ่มขึ้น ส่วน Pro ($200/เดือน) ใช้ GPT-5 Pro ได้ไม่จำกัด

19. ทีม องค์กร มหาวิทยาลัยก็ใช้ได้

ลูกค้าแบบ Team, Edu, และ Enterprise จะได้ GPT-5 เป็นโมเดลเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า

20. เปิดตัวพร้อม GPT-OSS รุ่นโอเพนซอร์ส

OpenAI ยังปล่อย gpt-oss รุ่น reasoning แบบโอเพนเวตให้โหลดใช้ได้ฟรี

ส่องประสิทธิภาพ GPT-5 เทียบกับคู่แข่ง

  • ด้าน Coding: GPT-5 ทำคะแนนสูงสุด 74.9% ในการทดสอบ SWE-bench Verified เอาชนะ Claude Opus 4.1 (74.5%) และ Gemini 2.5 Pro (59.6%)
  • ข้อสอบ Humanity’s Last Exam (วัดความสามารถด้านคณิตศาสตร์ มนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์): GPT-5 Pro ทำได้ 42% แพ้ Grok 4 Heavy ของ xAI ที่ทำได้ 44.4%
  • ข้อสอบ GPQA Diamond (คำถามระดับปริญญาเอกด้านวิทยาศาสตร์): GPT-5 Pro ทำได้ 89.4% ชนะ Claude Opus 4.1 (80.9%) และ Grok 4 Heavy (88.9%)
  • ด้านการแพทย์: GPT-5 มีอัตรา “hallucination” (การแต่งเรื่อง) ต่ำมากเพียง 1.6% ขณะ GPT-4o อยู่ที่ 12.9% และ o3 อยู่ที่ 15.8%
  • ด้านงานสร้างสรรค์: GPT-5 “มีรสนิยมดีกว่า” โมเดลอื่นในงานเขียนและดีไซน์

แม้จะมีบางจุดที่ GPT-5 ยังไม่แซงคู่แข่ง เช่น การใช้งานบนเว็บไซต์สายการบิน GPT-5 ทำได้ 63.5% ขณะที่ o3 ทำได้ 64.8% แต่ในภาพรวม GPT-5 มีความแม่นยำมากกว่า GPT รุ่นก่อน โดยเฉพาะด้านการลดการตอบผิดและแต่งข้อมูล

  • ผู้ใช้แบบ Plus ($20/เดือน) จะได้โควต้าการใช้งาน GPT-5 มากขึ้น
  • ผู้ใช้แบบ Pro ($200/เดือน) จะได้ใช้ GPT-5 Pro ที่มีสมรรถนะสูงกว่าด้วยทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพิ่มเติม
  • ลูกค้าองค์กรแบบ Team, Edu และ Enterprise จะได้ใช้ GPT-5 เป็นโมเดลเริ่มต้นในสัปดาห์หน้า
  • สำหรับนักพัฒนา GPT-5 มีให้เลือก 3 ขนาด: gpt-5, gpt-5-mini, และ gpt-5-nano ซึ่งใช้เวลาคิดแตกต่างกัน และสามารถกำหนดความยาวของคำตอบ (verbosity) ได้ผ่าน API

ค่าบริการ GPT-5 บน API:

  • Input: $1.25 ต่อ 1 ล้าน token (เทียบเท่า ~750,000 คำ)
  • Output: $10 ต่อ 1 ล้าน token

อ้างอิง: techcrunch

ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ เพื่ออ่านบทความฟรีไม่จำกัด

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

BOI ไฟเขียวลงทุนส่งท้ายปี! อนุมัติ Data Center 11 โครงการ มูลค่ากว่า 1.8 แสนล้านบาท ดันไทยสู่ Digital Hub เต็มตัว

BOI ภายใต้การนำของคุณเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ประกาศอนุมัติการลงทุนครั้งสำคัญส่งท้ายปี โดยมียอดเงินลงทุนรวมกว่า 7,500 ล้านดอลลาร์...

Responsive image

OpenAI ดึงอดีต CEO Slack ‘Denise Dresser’ นั่งแท่น Chief Revenue Officer เร่งปั่นรายได้กลางสมรภูมิ AI

OpenAI แต่งตั้ง Denise Dresser อดีต CEO ของ Slack เป็น Chief Revenue Officer คนแรก เร่งสร้างรายได้ เดินเกมรุกตลาดองค์กร พร้อมส่งสัญญาณเปลี่ยนผ่านสู่แพลตฟอร์ม AI เชิงพาณิชย์เต็มรูป...

Responsive image

OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 โมเดลเพื่อคนทำงาน เก่งขึ้นทั้ง Excel รูปภาพ โค้ด และงานซับซ้อน

OpenAI เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ GPT-5.2 อย่างเป็นทางการ หลังมีรายงานว่า Sam Altman ซีอีโอของบริษัทได้ประกาศสถานะ “Code Red” ภายในองค์กรเมื่อต้นเดือนธันวาคม เพื่อสั่งหยุดเกือบทุกโค...